Archive for June 2014
เรื่องผีที่105: วิญญาณวีรชน
.
Ghost Story105; วิญญาณวีรชน(?)
แต่ก่อนตอนที่ทำแม็กกาซีนอยู่ ช่วงนั้นจะมีการจัดงานเสวนากันทุกวันอาทิตย์สิ้นเดือนที่โรงแรมรอยัลรัตนโกสินทร์ ซึ่งโรงแรมนี้ก็เป็นที่รู้กันดีอยู่ถึงเหตุการณ์นองเลือดกราดยิงวีรชนในช่วงพฤษภาทมิฬซึ่งเกิดขึ้นในโรงแรมแห่งนี้ ในงานเสวนาเซเรนบางทีก็รับหน้าที่พิธีกร บางทีก็รับหน้าที่วิทยากร ก็ตามแต่หัวข้อบรรยาย หลังจากบรรยายเสร็จก็จะมีการจัดรายการเกมเล็กๆ เล่นกับน้องๆ FC อะไรไปจนกระทั่งจบงาน แต่ละอาทิตย์คนมามากน้อยต่างกันค่ะ อาทิตย์ไหนถ้าทันช่วงแม็กกาซีนวางแผงก็คือเท่ากับได้โฆษณา คนก็จะมางานกันเยอะ บางทีก็ล้นห้อง บางอาทิตย์โปรไม่ทัน แม็กกาซีนไม่ออก คนไม่รู้ข่าวก็จะมากันน้อยหน่อย ที่จะเล่าอันนี้เป็นเรื่องประหลาดๆ ที่เกิดขึ้นในอาทิตย์หนึ่งของงานค่ะ
อาทิตย์นั้นแม็กกาซีนออกไม่ทัน คนรู้ข่าวน้อย มีเด็กไปงานประมาณแค่ 20 คน เท่านั้น (สัมนาเล็กๆ โดยเฉลี่ย 20-80 คนในแต่ละอาทิตย์) ในระหว่างบรรยาย ถ้าจำไม่ผิดอาทิตย์นั้นเซเรนเป็นพิธีกร บรรยากาศในห้องประชุมค่อนข้างเงียบ เราก็ว่าคนมางานน้อยนะคะ ไม่ได้คิดอะไร แค่แปลกๆ ว่าทำไมรู้สึกเหมือนมีคนอยู่เต็มห้องทั้งๆ ที่คนร่วมงานมีอยู่แค่ 20 เท่านั้น
ตอนนั้นรับหน้าที่พิธีกรเราก็อยู่บนเวที สัมภาษณ์แขกรับเชิญไปตามเรื่องตามราว จากเวทีมองลงมาจะเห็นประตูห้องประชุมพอดี ซึ่งประตู… ปกติทุกครั้งจะเปิดเอาไว้เพราะโต๊ะลงทะเบียนอยู่ในส่วนหน้าประตู ใครที่มาช้าก็สามารถโผล่หน้ามาลงทะเบียนได้ทันที
ในตอนที่สัมภาษณ์วิทยากร และวิทยากรกำลังตอบคำถามกับน้องๆ ที่ฟังประชุมอยู่นั้น พิธีกรมีจังหวะว่างให้เหม่อ (เอ๊ะ??) เราก็ปัดสายตากราดลงมามองยังด้านล่างของเวทีที่มีคนนั่งอยู่แค่เพียง 20 แต่บรรยายกาศคึกคักเหมือนคนร่วมงานเป็นร้อย น้องๆ นั่งฟังบรรยายอย่างตั้งอกตั้งใจ สายตาเราจึงไล่กราดเลยไปยังประตูที่เปิดอยู่ของห้องประชุม…
มีผู้หญิงร่างผอมดำ ไหม้คล้ำ ร่างทอนบนเปลือย หัวกระเซิงปรกหน้า มายืนฟังบรรยายอยู่หน้าประตูห้อง!
เซเรนยืนนิ่ง เพ่งมอง… โอเค… ตัวจริง เสียงจริง โผล่มาจริงไม่ได้ตาฝาด แถมหน้าตาแบบนั้นดูยังไงก็ไม่น่าจะเป็นคนแล้วล่ะ ทันควันเราก็รีบหันมามองวิทยากรบนเวทีเลยว่ามองเห็นด้วยหรือเปล่า คือไม่อะไรค่ะ กำลังบรรยายอยู่ ไม่อยากให้งานล่มอ่ะ แต่ก็ปรากฏว่าวิทยากรยังพูดเรียบเรื่อยต่อไปอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น…
โอเค๊~…. ตกลงฉันมองเห็นอยู่คนเดียวอีกแล้วใช่ไหมนี่…!
นับเป็นเรื่องผีที่เกิดขึ้นท่ามกลางมวลชน ตอนนั้นไอ้เราก็อยู่บนเวทีด้วย งานบรรยายกำลังลื่นๆ น้องๆ จดยิกๆ เมามันส์ ถ้ากระโดดลงเวทีไปตอนนี้เดี๋ยวบรรยายกาศมันจะผิดปกติ จะเหล่ตาไปมองหน้าห้องบ่อยก็ไม่ได้ เดี๋ยวเด็กเห็นท่าทางเราจะสงสัยกันว่ามีอะไร แล้วเกิดใครจิตอ่อนๆ หันไปมองตามดันเกิดเห็นแล้วร้องกรี๊ดขึ้นมา… งานมันจะวุ่นเอานะ
คิดไปคิดมาก็ทำเนียนสัมภาษณ์ต่อไปหน้านิ่งๆ สักพักพี่ผู้หญิงหัวกระเซิงที่หน้าห้องก็ค่อยๆ Move… ไปที่ห้องสาม คือเราประชุมกันอยู่ที่ห้อง 2 ห้องสามจะอยู่ติดกัน แล้วพี่เค้า Move นี่คือ Move ไปจริงๆ นะคะ ไม่ได้เดิน คือค่อยๆ ลอยเลื่อนไปทางห้องสาม ลับสายตาไปจากประตูห้อง ช่วงนั้นเซเรนได้จังหวะพอดีเพราะมีทีมงานเดินมาใกล้เวที เราก็เลยกระดึ๊บๆ ไปกระซิบบอกเค้าให้ไปปิดประตูห้อง ซึ่งฝ่ายลงทะเบียนหน้าประตูห้องก็ยอมปิดประตูไปแต่โดยดีด้วยสีหน้างงๆ
เสร็จการสัมภาษณ์ก็เริ่มรายการเกม วันนั้นพิธีกรเหนื่อยค่ะ ไม่รู้ว่าน้องๆ คึกกันมาจากไหน อย่างกับในห้องมีคนอยู่เป็นร้อยจริงๆ คือวุ่นวายไปหมด แต่ก็สนุกดี ระหว่างงาน พอหมดหน้าที่พิธีกรเราก็ลงจากเวที ปรากฏมีเด็กสองคนเดินมาโวยวายๆ บอกว่า
“มีคนเห็นผี มีคนเห็นผี”
เซเรนได้ยินก็หูผึ่งเลย… เอ๊ะ!? เมื่อกี้นี่ไม่ใช่ว่าฉันเห็นอยู่คนเดียวหรอกเหรอ ด้วยความสงสัยเลยทำเนียนย่องๆ ไปถามน้องที่โวยวายกันว่ามีอะไรเหรอ ก็ได้คำตอบมาว่า
“เมื่อกี้คนที่ไปเข้าห้องน้ำค่ะ เขาบอกว่าเขาเห็นผีอยู่ที่ห้องสาม”
คือทางไปห้องน้ำจากห้องบรรยายมันจะต้องเดินผ่านห้องสามด้วย ทำให้เรานึกถึงพี่สาวหัวฟูที่มายืนฟังบรรยายอยู่หน้าห้องเมื่อกี้ขึ้นมาเชียว และทันทีโดยที่เรายังไม่ทันจะได้ซักถามอะไรต่อ
“ขอหนูไปดูผีก่อนนะพี่”
เจ้าน้องสองคนว่าอย่างนั้นแล้วก็วิ่งไปที่ห้องสามทันควัน
ส่วนเราคิดในใจ ‘ผีที่ไหนจะยืนรออยู่ให้พวกเอ็งไปมุงวะ’
พอน้องๆ ไปมุงผี (และวิ่งมาบอกเราที่หลังว่าไม่เจอ) เซเรนก็ย่องไปกระซิบถามคุณแม่ที่ไปช่วยดูแลความเรียบร้อยของงานให้ว่า มีอะไรเกิดขึ้นที่ห้องสามเหรอ ก็ได้คำตอบจากคุณแม่มาว่า
“วันนี้โรงแรมเค้าจัดทำบุญใหญ่ที่ห้องสาม อุทิศส่วนกุศลให้กับวิญญาณวีรชนในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ”
Recent Comments